โดนใจตลอดกาล! มาทำความรู้จักประเภทลายผ้าพิมพ์ ที่คนรักผ้าพิมพ์ห้ามพลาด
1. ลายธรรมชาติ (Natural)
ถึงแม้ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหนมนุษย์เราก็ยังโหยหาความรื่นรมของธรรมชาติกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นลายดอกไม้ ต้นไม้ ใบหญ้า ลูกหิน หยดน้ำ และธรรมชาติรอบๆตัว สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ใช้เป็นแรงบันดาลใจที่นำมาสร้างสรรค์ลวดลายให้ออกมาโลดแล่นได้ตลอดกาล โดยเฉพาะ "ลายดอกไม้(Floral)" ที่กำลังฮอตฮิตหมู่สาวๆในเวลานี้

ดอกเล็กดอกน้อย เหมาะกับเดรสลุคหวานๆ
ที่มา : https://www.pinterest.com/pin/18929260926389656/

ลายดอกสไตล์สีน้ำมัน ลุคเฉียบ
ที่มา : https://www.pinterest.com/pin/318629742391486234/

ลายทั้งตัวไปเลยจ้า
ที่มา : https://www.pinterest.com/pin/417145984240024966/

เดรสสีหวานๆ แต่มากับผลส้ม เลม่อน เปรี้ยวเข็ดฟัน
ที่มา : https://www.pinterest.com/pin/593208582166643647/

เทรนด์ tropical ที่เห็นแล้วอยากพักร้อนไปเที่ยวเลยค่ะ
ที่มา : https://www.pinterest.com/pin/593208582166643647/
มนุษย์เราเริ่มนำการพรางตัวแบบสัตว์มาประยุกต์กับการพรางตัวของทหารเป็นอันดับแรก โดยเป็นชุดสีกากีที่ทหารอังกฤษใส่ในสงครามบัวร์ (Boer War) ในแอฟริกาช่วงปี ค.ศ. 1902และประเทศอื่นๆก็เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับลวดลายและสีสันลายพรางของชุดทหารมากขึ้น นี่ถือเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเล็กๆ ของ Camouflage ซึ่งทุกวันนี้กลายเป็นไอเท็มที่เพิ่มความสนุกให้กับการแต่งตัวอย่างไม่รู้จบ

แจ๊คเกตoversize ก็ดูน่าหวั่นไหวไปอีกแบบ
ที่มา : https://www.pinterest.com/pin/269160515209307152/

กางเกงทรงบอยจั๊มขา ใส่แล้วมั่นสุด
ที่มา : https://www.pinterest.com/pin/163677767692633223/
3. ลายจุด (Polka Dot)
ลายจุด หรือ Polka Dot แฟชั่นนี้ไม่เคยจางห่างหายไปไหน
ไม่มีคำว่า IN หรือ OUT หากยังคงคลาสสิค
(classic) อยู่ในกระแสมาตลอด ที่มาของลายจุดเหล่านี้
บ้างก็ว่าชาวยุโรปตะวันออกที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานในอเมริกานั้น
ไม่ได้นำแค่ดนตรีและการเต้นรำของพวกเขาเข้ามาเท่านั้น หากยังนำลวดลายนี้เข้ามาสู่วงการแฟชั่น
บางคนก็ว่าเจ้าพ่อการ์ตูนอย่างวอล์ท ดิสนีย์ (Walt Disney) เป็นคนนำลายจุดมาใส่ในชุดของ
มินนี่ เมาส์ (Minnie
Mouse) เพื่อสร้างความแตกต่าง
และทำให้หลายคนชื่นชอบมันไปด้วย


ที่มา : https://www.pinterest.com/pin/393642823675253570/

ที่มา : https://www.pinterest.com/pin/310748443038500733/

4. ลายทาง (Stripe)
แฟชั่นลายทางมีอายุยาวนานกว่า 150 ปีแล้วนะ เป็นคุณทวดเราได้เลยอีกทั้งมีต้นกำเนิดสุดหวือหวา ถึงขนาดที่ครั้งหนึ่งเคยถูกเรียกว่า เครื่องแต่งกายของปีศาจ หรือ The Devil’s Cloth สาเหตุมาจากในยุคก่อนที่แฟชั่นลายทางจะเฟื่องฟูนั้น เสื้อผ้าชนิดนี้นิยมใส่กันเฉพาะในหมู่นักโทษ ตัวตลก และผู้ป่วยวิกลจริตเท่านั้น โดยเฉพาะนักโทษคดีร้ายแรง ถึงขนาดที่ว่าเคยมีชายชาวฝรั่งเศสถูกตัดสินโทษประหารชีวิต เพียงเพราะถูกจับกุมในขณะที่สวมใส่ชุดลายทาง


ที่มา : https://www.pinterest.com/pin/219128338099360567/

ที่มา : https://www.pinterest.com/pin/290130400992175195/

ที่มา : https://www.pinterest.com/pin/306807793370421803/
5. ลายสก็อต (Scott/Plaid)
หลายคนคงจะสงสัยกันว่าลายสก็อตมาจากสก็อตแลนด์หรือเปล่า? แท้จริงแล้วเสื้อลายสก็อตมาจากชนเผ่าหนึ่งในดินแดนของสก็อตแลนด์จริง
กับชนเผ่าที่มีชื่อว่า Tartan ซึ่งเกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อ 2 พันกว่าปีมาแล้ว
แต่ว่าลวดลายสก็อตเริ่มมาเป็นที่นิยมอย่างมากเมื่อประมาณร้อยปีที่ผ่านมาโดยแพร่กระจายไปทั่วโลก
เพราะมี designer ชื่อดังต่างๆ ผลัดกันเอามาเล่นใน collection ตัวเองอยู่เรื่อย โดยเฉพาะ Burberry
แบรนด์หรูชื่อดีงจากอังกฤษ
ที่ใช้ Tartan เป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์กันเลยทีเดียว เรื่องราวมาเริ่มซับซ้อนตรงชื่อที่ใช้เรียกเจ้าลายสก็อตนี้
คือถ้าเป็นที่ USA จะเรียกว่าเป็น Plaid แต่ถ้าเป็นที่อังกฤษหรือสก็อตแลนด์จะยังเรียกว่า
Tartan อยู่ ความสับสนยังไม่หมดแค่นั้น เพราะว่าลายเสื้อแบบ Tartan จริงๆ จะเป็นลายแบบไม่สมมาตร
พอมีเสื้อลายสก็อตแบบสมมาตรออกมาบางคนเลยไปเรียกว่าเป็น check หรือตารางหมากรุก ทำให้มั่วกันไปใหญ่ตกลงจะ Tartan หรือจะ plaid หรือจะ
check



ที่มา : https://www.pinterest.com/pin/728809152193251805/
6. ลายกราฟิก (Graphic)
ขึ้นชื่อว่ากราฟิก เราจะเห็นได้ระรานตาทั้งในหน้าสิ่งพิมพ์ สื่อโฆษณาออนไลน์และรวมถึงแฟชั่นที่ใช้กันในทุกวันนี้ โดยลายกราฟิกมีทั้งรูปทรงเลขาคณิต สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม หรือลายเส้น กลายเป็นเทรนด์ที่ผู้คนชื่นชอบมาก จนแฟชั่นไอคอนหลายคนยกให้เป็น"ที่สุดของความคลาสสิก" แต่ทว่าในสมัยนี้กราฟิกได้กลับมาในรูปโฉมที่ดูแฟชั่นเจนจัดกว่าแต่ก่อนหลายตัวเลยทีเดียว

ที่มา : https://www.pinterest.com/pin/602004675170793420/

ที่มา : https://www.pinterest.com/pin/483644447485543879/
7. ลายมัดย้อม (Tie Dye)
แฟชั่นผ้ามัดย้อมภูมิปัญญาการย้อมผ้าแบบง่าย ๆ ไม่ว่าใครก็สามารถทำได้ หากเมื่อก่อนให้เอามาสวมใส่ก็กลัวว่าจะดูเชยหรือไม่เข้ากับบุคลิก มีเพียงแค่เหล่าวัยรุ่นฮิปสเตอร์เคยสวมใส่กันเฉพาะกลุ่ม แต่ตอนนี้ได้กลายมาเป็นเทรนด์แฟชั่น ที่ใครไม่มีไม่ได้แล้ว เพราะได้มีการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์และสีสันหลากหลายสไตล์

https://www.hallensteins.com/us/absent-freedom-tie-dye-t-shirt-9860215-black
8. ลายหนังสัตว์ (Animal Skin)
สำหรับลายเอกโซติก หรือลายหนังสัตว์ เป็นลวดลายที่ไม่มีวันตายจริงๆ เพราะหลายคนดังก็ต่างแอบหยิบมา Mix&Matchลุคปังๆกันให้เพียบ ที่สำคัญคือมาพร้อมกับเทรนด์ รักษ์สัตว์ รักษ์โลก งดทำร้ายธรรมชาติด้วยการใช้การพิมพ์ลายหนังสัตว์แบบเนียนๆทดแทนการใช้หนังสัตว์จริงมาสวมใส่อีกด้วย


ที่มา : https://www.pinterest.com/pin/809099889284488980/
ยังคงอินต่อเนื่องกับแฟชั่นแบบมินิมอลสไตล์ ที่เน้นลวดลายเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความ Cool! หนึ่งในเทรนด์เก๋ๆ ช่วงนี้ก็คือ แฟชั่นลายหินอ่อน สังเกตได้จากกระเป๋า รองเท้า เคสมือถือ ที่ยังถูกผลิตออกมาเรื่อย ๆ โดยเฉพาะโทนขาว-ดำ-เทา ที่เอามามิกซ์กับอะไรก็ง่ายสบายตา แถมยังถ่ายรูปลงโซเชียลแล้วออกมาดูดีซะด้วย

ที่มา : https://www.inwear.com/en-eu/marble-gillaiw-shirt-30105929-300430
ที่มา : https://www.scotch-soda.com
10. ลายพื้นเมือง (Native)
ลวดลายแบบไหนน่อที่เป็นลวดลายเฉพาะที่ทุกๆสัญชาติทั่วโลกต้องมี ก็คงไม่พ้นลายพื้นเมือง เป็นลวดลายที่ดึงเอามนต์ขลังและเรื่องราวของชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมาปะติดปะต่อลงบนผืนผ้าข้าม ผ่านยุคสมัยมายาวนาน จวบจนตอนนี้ มีหลายแบรนด์ที่นำลวดลายเหล่านี้ปัดฝุ่นปรับเปลี่ยนให้เข้าทันยุคทันสมัยและสามารถสวมใส่ได้อย่างลงตัว (แต่ก็ยังคงกลิ่นอายงอารยธรรมดั่งเดิมให้คิดถึงอยู่นะ)

ที่มา : https://www.pinterest.com/pin/128141551882973960/